มือปืนแห่งหน่วยซีลของกองทัพสหรัฐฯ คริส ไคลน์ ถูกส่งตัวไปที่อิรักพร้อมภารกิจปกป้องเหล่าพี่น้องทหาร ความแม่นยำของเขาได้ช่วยชีวิตในสมรภูมิรบมาแล้วอย่างนับไม่ถ้วน และเมื่อเรื่องราวความกล้าหาญของเขาแพร่สะพัดออกไป เขาได้รับการยกย่องให้เป็น "ตำนาน" แต่อย่างไรก็ตามชื่อเสียงของเขาก็เป็นที่กล่าวขานกันในหมู่ศัตรูเช่นกัน ทำให้เขามีค่าหัวและกลายเป็นเป้าหมายหลักสำคัญของพวกกบฏ และเขายังต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้ในอีกรูปแบบหนึ่ง คือการทำหน้าสามีและคุณพ่อที่ดีจากทั่วทุกมุมโลก
เมื่อทุกย่างก้าวคือ "ความเป็น" และทุกวินาทีคือ "ความตาย" ท่ามกลางไอแดดอันร้อนผ่าวและฝุ่นอันคละคลุ้ง ระเบิดหลายลูกนอนนิ่งรอคอยเวลาทำงานของมันอย่างไม่ส่งเสียง อำนาจทำลายล้างของระเบิดแต่ละลูกกินพื้นที่ไกลและรุนแรงเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ หน้าที่ของ จ่าสิบเอกวิลเลี่ยม โจนส์ (เจอเรมี่ เรนเนอร์) คือการยับยั้งระเบิดเจ้าปัญหาเหล่านั้นก่อนที่มันจะสร้างความเสียหายให้กับใคร ในสงครามอ่าวอันยืดเยื้อและยาวนาน งานของโจนส์เป็นงานที่ต้องแข่งกับเวลา ต้องต่อสู่กับความตึงเครียด และเอาชนะต่อโชคชะตาที่เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้ายทุกวินาที อย่างที่เขาว่ากัน งานกู้ระเบิด แค่ความกล้าอย่างเดียวไม่ได้...คุณจะต้องบ้าด้วย! แคธรีน บิเกโลว์ ผู้กำกับหญิงแกร่งแห่งฮอลลีวูด เจ้าของงานมาโชหนัก ๆ อย่าง Point Break, Strange Days และ K-19 กลับมาพร้อมกับหนังอันถือได้ว่าเป็นจุดสูงสุดอาชีพของเธอเอง The Hurt Locker เต็มไปด้วยช่วงเวลาลุ้นระทึก เช่นเดียวกับที่หนังได้บันทึกภาพความเป็นไปของสงครามอันไร้สาระของชาวอเมริกันอย่างสมจริง ตรงไปตรงมา
พบว่าท็อปเปอร์ ฮาร์ลีย์ทำงานเป็นพนักงานชั่วคราวในวัดแห่งหนึ่ง ซีไอเอต้องการให้เขาเป็นผู้นำภารกิจกู้ภัยในอิรัก เพื่อช่วยเหลือทีมกู้ภัยชุดสุดท้ายที่เข้าไปช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกทิ้งไว้หลังปฏิบัติการพายุทะเลทราย
ในสงครามอิรัก ไอแซค และแมทธิว คู่หูพลซุ่มยิงกำลังประจำการเฝ้าเป้าหมาย ด้วยความชะล่าใจ จากที่คอยซุ่มยิงเลยกลายเป็นว่าโดนยิงเสียเอง พวกเขาจึงต้องใช้ทุกวิถีทางในการเอาชีวิตรอดจากศัตรูที่แอบซุ่มยิงอยู่ โดยมีเพียงแค่กำแพงเก่าๆเท่านั้น ที่จะช่วยรักษาชีวิตของพวกเขาไว้ได้
Tom Holland รับบทหนุ่มนักศึกษาที่ เรียนไม่จบสู่การเป็นเสนารักษ์ในอิรัก มีเพียงเอมิลี่ (Ciara Bravo) รักแท้ เดียวที่ช่วยยึดเหนี่ยวเขาไว้ แต่หลัง กลับจากสนามรบพร้อมบาดแผลทาง ใจ ชีวิตของเขาก็ดำดิ่งสู่วังวนยาเสพ ติดและอาชญากรรมในขณะที่เขา ดิ้นรนต่อสู้เพื่อค้นหาพื้นที่ของตัวเอง บนโลกใบนี้
อดีตผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษนาวิกโยธินออกตามล่ากลุ่มหัวขโมยเพชรที่ลักพาตัวภรรยาของเขาไป
เรื่องราวของชีวประวัติของ ดิ๊ก เชนีย์ (คริสเตียน เบล) รองประธานาธิบดีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ข องสหรัฐอเมริกา และด้วยนโยบายของเขาจึงทำให้เกิดการเปลี่ยนโลกไปอย่า งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
เพราะมีบางเรื่องที่รัฐบาลไม่อยากให้เรารู้! . เตรียมพบภาพยนตร์ทริลเลอร์ ระทึกขวัญ กับเรื่องจริงของการเปิดโปงความลับรัฐบาลที่ฉาวที่สุดในประวัติศาสตร์ใน "Official Secrets รัฐบาลซ่อนเงื่อน" ผลงานการกำกับเรื่องใหม่จาก 'กาวิน ฮู้ด' แห่ง Eye in the Sky พร้อมทัพนักแสดง 'เคียร่า ไนท์ลี่ย์, แมทท์ สมิธ, แมทธิว กู้ด และ เรล์ฟ ไฟนส์' . ในปี 2003 ยุคที่สหรัฐอเมริกาและอังกฤษหาทางก่อสงครามอิรัก แคทธารีน กัน (เคียร่า ไนท์ลี่ย์) เจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรองของอังกฤษได้รับอีเมลเป็นเอกสารลับที่เผยว่าทางการสหรัฐฯกำลังสอดแนมสมาชิกคณะมนตรีความมั่งคงแห่งสหประชาติเพื่อบีบบังคับสมาชิกให้ยินยอมการทำสงครามอิรัก . แคทธารีนได้ส่งสำเนาเอกสารให้ มาร์ติน ไบรท์ (แมทท์ สมิธ) นักข่าวของ The Observer เพื่อตีพิมพ์ บทความดังกล่าวได้สร้างแรงสะเทือนทั่วเกาะอังกฤษ ส่งผลให้ชีวิตของแคทธารีนตกอยู่ในอันตรายเมื่อเธอถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายความลับราชการ และ กำลังถูกตามล่าโดยรัฐบาลของเธอเอง!
ระหว่างที่เข้ายึดครองกรุงแบ็กแดดในปี 2003 นายทหาร รอย มิลเลอร์ (แม็ตต์ เดม่อน) และทีมผู้ตรวจการของกองทัพ ถูกส่งตัวมาเพื่อค้นหาอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างมหาศาลที่เชื่อกันว่าถูกเก็บ ซ่อนเอาไว้ในทะเลทรายอิรัก พวกเขาต้องเดินทางสำรวจจุดแล้วจุดเล่า เพื่อค้นหาอาวุธเคมีร้ายแรง แต่พวกเขากลับสะดุดพบความลับที่ทำให้เป้าหมายของภารกิจของพวกเขาเปลี่ยนแปลง ไปในทันที
ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Fahrenheit 9/11 ได้สะกดรอยตาม เพื่อหาหลักฐานและเหตุผลต่าง ๆ ว่า ทำไมประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงได้เป็นจุดศูนย์กลางของความเกลียดชังและการก่อการร้าย และภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แฉให้เห็นถึงความสัมพันธ์ รวมถึงการติดต่อทางการค้าที่ถูกกล่าวถึงระหว่างตระกูลบุช และบิน ลาเดน ซึ่งได้พาดพิงถึงสาเหตุที่ทำให้ จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช และ บิน ลาเดน กลายเป็นศัตรูกัน
The first 40 days of the war in Iraq as seen through the eyes of an elite group of U.S. Marines who spearheaded the invasion along with an embedded Rolling Stone reporter. A vivid account of the soldiers and of the forces that guided them in an often-improvised initiative.
While Osama bin Laden and Al-Qaeda become a global threat, the rivalry between the CIA and FBI inadvertently sets the stage for the tragedy of 9/11 and the Iraq War.
Relive a heroic fight for survival during the Iraq War, when the 1st Cavalry Division from Fort Hood was ferociously ambushed on April 4, 2004, in Sadr City, Baghdad — a day that came to be known in military annals as “Black Sunday.”
Gritty, intense, evocative and emotional, "Over There" takes you to the front lines of battle and explores the effects of war on a U.S. Army unit sent to Iraq on their first tour of duty, as well as the equally powerful effects felt at home by their families and loved ones.
The intimate world of Saddam Hussein and his closest inner circle is in this gripping four-part drama that charts the rise and fall of one of the most significant political figures in recent history.
A series of short dramas about the countdown to war in Iraq.
A powerful, affecting drama that spans the five years following the invasion of Iraq in 2003. Follow the lives of three soldiers and friends as they deal with the war in Iraq and life back home.
The Howard Years was a documentary series about the prime ministership of John Howard produced by the Australian Broadcasting Corporation. It was divided into four one-hour episodes - one episode for each term Howard served as Prime Minister of Australia - and originally broadcast on ABC1 from 17 November to 8 December 2008.
The Mark of Cain is a British Academy of Film and Television Arts Award-winning British television film first broadcast in 2007 following three young men as they experience the extremity of war for the first time, and the permanent effects of what they have seen and done as they return from their tour of duty. Rather than heroic stories, all they bring home are tawdry trophy photos, as well as the secrets of what they really did, until the consequences of their actions surface to confront them. Produced by Red Production Company, it was originally scheduled on Channel 4 at 9pm on 5 April 2007, but was rescheduled to April 12, 2007, in light of the detention of British service personnel by Iran. The film's title comes from Royal Irish Regiment Colonel Tim Collins's eve-of-battle speech in Iraq in 2003.
