คำสำคัญ Success

แม็คควีน ไลท์เทนนิง (พากย์เสียงโดยโอเวน วิลสัน) รถแข่งใหม่ซิงร้อนฉ่าที่มีความสำเร็จเป็นแรงขับเคลื่อน แต่เขาก็ได้เรียนรู้ว่า ชีวิตเป็นเรื่องของการเดินทาง ไม่ใช่เส้นชัย เมื่อเขาพบว่าตัวเองต้องวิ่งทางอ้อมตามเส้นทางรู้ท 66 ที่นำไปสู่เรดิเอเตอร์ สปริงส์ ระหว่างการเดินทางข้ามประเทศไปเพื่อเข้าแข่งขันรายการพิสตัน คัพ แชมเปียนชิพในแคลิฟอร์เนียเพื่อประชันความเร็วกับรถแข่งเก๋าเกมสองัน แม็คควีนก็มีโอกาสได้รู้จักเหล่ารถน่ารัก น่าเอ็นดูของเมืองนี้ ซึ่งประกอบไปด้วย ด็อค ฮัดสัน (รถฮัดสัน ฮอร์เน็ตปี 1951 ที่มีอดีตลึกลับ พากย์เสียงโดยพอล นิวแมน นักแสดงในตำนาน), แซลลี คาร์เรรา (รถปอร์เชสุดเฉียบปี 2002 พากย์เสียงโดยบอนนี ฮันท์) และเมเตอร์ (รถลากเก่าสนิมเขรอะพากย์เสียงโดยแลร์รี เดอะ เคเบิล กาย) ที่ช่วยให้เขารู้ว่า ยังมีสิ่งอื่นที่สำคัญยิ่งไปกว่าถ้วยรางวัล ชื่อเสียง และการได้รับการสนับสนุน

หลังต้องออกมาเตะฝุ่นอยู่กับบ้าน พ่อที่ตกงานจึงหันมาเปิดศูนย์รับเลี้ยงเด็กที่บ้าน ซึ่งนำไปสู่เรื่องป่วนชวนอลวนสารพัด

เด็กหนุ่มคนหนึ่ง Chris Cole ผู้รักการร้องเพลงร็อคเป็นชีวิตจิตใจ ได้ตั้งวงดนตรีเลียนแบบขึ้นกับกลุ่มเพื่อน วงมีชื่อว่า Blood Pollution และได้ไปตระเวณแสดงตามที่ต่างๆ โดยมีแฟนสาว Emily เป็นผู้จัดการวง ซึ่งเพลงที่เค้าร้องทุกเพลงจะเป็นเพลงเลียนแบบวง Steel Dragon ที่กำลังเป็นวงเฮวี่เมทัลที่ดังที่สุดในอเมริกาขณะนั้น แต่เนื่องจากความต้องการความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติในการเลียนแบบวง Steel Dragon จึงทำให้เค้าเกิดผิดใจกับเพื่อนๆในวง จนทำให้ Chris Cole ตัดสินใจลาออกจากวงไป ประจวบกับนักร้องวง Steel Dragon ก็ได้ลาออกจากวงเช่นกัน จึงทำให้ Steel Dragon ขาดนักร้องนำ ผู้จัดการวงจึงต้องหานักร้องนำหน้าใหม่มาแทนที่ ซึ่งเค้าก็ได้เห็นเทปการแสดงของ Chris Cole จึงทำให้เค้าประทับใจมาก จึงได้ชวน Chris Cole กับ แฟนสาวไปอยู่วงด้วย และทำให้เค้ากลายเป็น Rock Star ที่เนื้อหอมที่สุด เรื่องราวชีวิตที่พลิกผันของ Chris Cole กับความรักกับ Emily ยังสานต่อกันไปได้หรือไม่ ติดตามชมได้ใน Rock Star

ในยุค 70 กลุ่มวัยรุ่นนักเล่นกระดานโต้คลื่นจากย่านอันธพาลซึ่งรู้จักดีกันในนาม”ด็อกทาวน์” ในเวนิส แคลิฟอร์เนีย ริเริ่มการปฏิวัติครั้งใหญ่ของการเล่นสเก็ตบอร์ดแนวใหม่ขึ้น ฉายาซี-บอยซ์ ซึ่งรวมตัวกันโต้คลื่นอยู่แถวท่าเรือแปซิฟิก โอเชี่ยนพาร์คเป็นที่รู้จักจากรูปแบบอันก้าวร้าว ทัศนคติข้างถนน บวกกับการเคลื่อนไหวท้าตายในการโต้คลื่นด้วยลีลาของสเก็ตบอร์ด จนกลายเป็นเรื่องเล่าขานของท้องถิ่นเพียงชั่วข้ามคืน ในสระไร้น้ำกลุ่มซี-บอยซ์ใช้มันต่างเวทีผืนผ้าใบ แผ้วถางไปสู่สิ่งซึ่งเวลานี้ได้รับการขนานนามว่า “กีฬาเอ็กซ์ตรีม” และ.สร้างสรรค์รูปแบบการใช้ชีวิตซึ่งแพร่ระบาด จนกลายเป็นปรากฏการณ์ต่อต้านวัฒนธรรมไปทั่วโลก ทว่าชื่อเสียงทั้งหมดนี้ต้องแลกด้วยมิตรภาพในกลุ่มที่พวกเขาเคยคิดว่าจะคงอยู่ตลอดชั่วชีวิต เมื่อกีฬาซึ่งเริ่มต้นจากงานอดิเรกยามบ่ายแปรผันเข้าสู่ธุรกิจใหญ่โต

ชาร์ลี แชปลินวัยชราเล่าเรื่องชีวิตของเขาให้บรรณาธิการอัตชีวประวัติฟัง รวมถึงความร่ำรวยและชื่อเสียงที่ตลกขบขันจากความยากจน ชีวิตส่วนตัวที่ปั่นป่วน และปัญหากับเอฟบีไอ

เธอผู้มาเยือนจากนอกโลกทั้งน่ารักแล้วยังน่าขนลุกไม่ใช่เพียงแค่รูปลักษณ์ หากแต่เธอเติบโตได้ด้วยการรดน้ำด้วยเลือดมนุษย์เท่านั้น แล้วสิ่งที่คุณหวังไว้จะกลายเป็นจริง

ริค (คริสเตียน เบล) นักเขียนบทภาพยนตร์ชื่อดังในฮอลลีวู้ดที่กำลังรุ่งเรืองสุดขีด แต่เขากลับรู้สึกผิดหลังจากน้องชายของเขาเสียชีวิต ริค จึงแสวงหาบางอย่างเพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดหาย โดยภาพยนตร์จะเล่าร้อยเรียงจากความหมายของไพ่ทาโรต์ 8 ใบ The Moon, The Hanged Man, The Hermit, Judgment, The Tower, The High Priestess, Death และ Freedom ผ่านความสัมพันธ์ของผู้คนที่เข้ามาในชีวิตของ ริค ไม่ว่าจะเป็น แนนซี่ (เคท แบลนเช็ตต์) แพทย์หญิงที่เขาเคยแต่งงาน, อลิซาเบ็ธ (นาตาลี พอร์ตแมน) คนรักคนใหม่ของเขา, คาเรน (เทเรซ่า พาล์มเมอร์) นักเต้นระบำเปลื้องผ้า, อิซาเบล (อิซาเบล ลูคัส) หญิงสาวไร้เดียงสา ที่ช่วยเปิดโลกใบใหม่ให้กับเขา เป็นต้น

ในที่สุดเสือผู้หญิงตัวพ่ออย่างมาร์คัส เกรแฮม ก็ได้เจอคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ เมื่อแจ็กเกอลีน เจ้านายคนใหม่มาพลิกกระดาน และทำให้เขาต้องทบทวนวิถีชีวิตของตัวเองใหม่

ขณะที่เจน ชลิชท์ (จอห์น ทราโวลต้า) ทนายความหนุ่มกำลังเพลิดเพลินจากรายได้มหาศาลในการชน ะคดีหนึ่ง เขาได้รับการว่าจ้างจากครอบครัวในโวเบิร์นให้ฟ้อง 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ของรัฐที่เป็นเหตุทำให้น้ำในบ่อน้ำดื ่มของเมืองเป็นพิษ และทำให้เด็บหลายคนต้องตายด้วยโรคลูคิเมีย เจนคิดว่าคดีนี้จะต้องชนะอยู่แล้ว และจะทำรายได้มหาศาลให้ เขาจึงรับทำคดีให้ แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะยิ่งค้นก็ยิ่งลึกลงไป และเขาก็พบว่านี่ไม่ใช่คดีธรรมดาเสียแล้วมันทำให้เขา ต้องเสียชื่อเสียงเงิน ทอง และเพื่อนร่วมงานไป ทั้งนี้เพราะฝ่ายตรงข้ามมีทนายความชั้นครูอย่าง เจเรมี เฟเชอร์ (โรเบิร์ต ดูวอลล์) ที่รู้ทุกกระบวนความคิดของเขา แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่หยุดที่จะต่อสู้กับสิ่งที่เขาเ ชื่อว่าเป็นความจริง

นิวยอร์ก 1959 แม็กซ์ เบียลีสต็อกเคยเป็นราชาแห่งบรอดเวย์ แต่ตอนนี้การแสดงของเขาทั้งหมดต้องปิดในคืนเปิดการแสดง เรื่องราวพลิกผันเมื่อเขาได้รับการเยี่ยมเยียนจากลีโอ บลูม นักบัญชีผู้มีอาการวิตกกังวล ซึ่งเสนอแผนเฉพาะสำหรับโปรดิวเซอร์ที่ทำได้แต่เรื่องล้มเหลว นั่นคือ ระดมเงินมากกว่าที่จำเป็น จากนั้นจึงตรวจสอบให้แน่ใจว่าการแสดงนั้นถูกดูหมิ่น ไม่มีใครสนใจแผนนี้ ดังนั้นคุณจึงเก็บส่วนเกินไว้ได้ เพื่อจุดประสงค์นี้ พวกเขาจึงสร้างละครเพลงเรื่อง Springtime for Hitler ซึ่งเขียนบทโดยฟรานซ์ ลีบเคน นาซีที่หลบหนี จากนั้นพวกเขาก็ได้โรเจอร์ เดอ บรีส ผู้โอ้อวดเกินเหตุมากำกับ ในที่สุด พวกเขาจึงจ้างอุลลา นางเอกสาวชาวสวีเดนสุดเพี้ยน (ซึ่งนามสกุลมีพยางค์มากกว่า 15 พยางค์) มาเป็นนักแสดงนำ เมื่อคืนเปิดการแสดงใกล้เข้ามา อะไรจะผิดพลาดได้ล่ะ? ก็คงไม่มีใครสามารถอธิบายรสนิยมได้...

หนังรักเรื่องนี้เป็นเรื่องของคนสองคน หนึ่งคือ วิลล์ คีน เพลย์บอยผู้มั่งคั่งแห่งมหานครนิวยอร์ค เขาเป็นเจ้าของภัตตาคารสุดหรูที่สุดแห่งหนึ่งในมหานครที่ไม่มีวันหลับ และเป็นศูนย์รวมของชนชั้นสูงของเมือง คีน ดูเหมือนมี ครบ ทุกอย่างในชีวิต เพราะแต่ละวันเขามี สาวสวย มาให้ความสำราญและเติมอิ่มในชีวิต จนเขามั่นใจว่าเขาสามารถควบคุมโลกทั้งใบได้ จากความหบ่อ ความรวย และความสำเร็จในอาขชีพของเขา แต่ลึกๆ หนุ่มใหญ่เริ่มตระหนักว่าเขาขาดบางอย่าง !!! กระทั่งวันหนึ่ง เขาจึงได้รูว่าสิ่งที่เขาขาดนั้น อยู่ในตัวของหญิงสาววัยคราวลูกที่ชื่อ ชาร์ล็อต ฟีลดิ้ง นักศึกษาศิลป เพราะแรกพบ สิ่งที่วิลล์เห็นในตัวของหญิงสาวแสนสวยคนนี้ก็คือความสนุกสนานร่าเริงและรักอิสระ ชาร์ล็อตทำลายความคิดและความเชื่อเรื่องความรักของวิลล์อย่างสิ้นเชิง แต่โลกของชาร์ล็อตกับโลกของวิลล์ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งเรื่องวัยวุฒิและคุณวุฒิ และเมื่อวิลล์รู้ตัวว่าเขาตกหลุมรักหญิงสาวคราวลูก ความรักแบบ โคแก่อยากกินหญ้าอ่อน ของเขาก็ไม่ง่าย ... รวมทั้งเหตุผลสำคัญคือชาร์ล็อตกำลังจะตาย !!!

Brantley Foster เด็กหนุ่มการศึกษาดี จากแคนซัส มีความฝันในการทำงานและประสบความสำเร็จในนิวยอร์ก เขาใช้เทคนิคบางอย่างจนได้รับความสำเร็จทั้งในเรื่องการงานและความรัก

เฮนรี่ แฮ็คเกตต์เป็นบรรณาธิการของแท็บลอยด์ในนิวยอร์กซิตี้ที่ทำงานหนักมาก เขารักงานของเขา แต่การทำงานเป็นเวลานานและเงินเดือนน้อยทำให้คนไม่พอใจ นอกจากนี้ เบอร์นี ไวท์ ผู้จัดพิมพ์ยังประสบปัญหาทางการเงิน และอลิเซีย คลาร์ก มือขวาผู้เป็นศัตรูของเฮนรี่ กำหนดให้มีการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่เป็นที่นิยม

เมื่อหนุ่มนักค้าหุ้นแสนเจ้าชู้ในวอลสตรีทขับรถไปกับกิ๊ก แล้วดันขับผิดเลนเข้าไปในถิ่นคนดำเข้า ในขณะที่เค้ากำลังยกยางที่ขวางทางออก ด้วยความกลัว กิ๊กของเค้าเลยชนเข้ากับหนุ่มผิวดำเข้า เท่านั้นแหละความซวยและความดังเลยมาเยือน นักข่าว นักชุมชน ต่างมาขุดคุ้ยกับอุบัติเหตุครั้งนี้เพื่อให้ตัวเองมีชื่อเสียง

เล่าเรื่องของเรนโบว์ แรนดอล์ฟ ดาราดังจากรายการทีวีสำหรับเด็กชื่อดังที่แต่งตัวเป็นตัวละครทุจริต ซึ่งถูกไล่ออกเพราะเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการติดสินบน และถูกแทนที่ด้วยแรดสีชมพูฟูฟ่องที่แสนสะอาดเอี่ยม ในขณะที่แรดสีชมพูฟูฟ่องกำลังโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเรตติ้งที่พุ่งสูงและได้รับความรักจากผู้บริหารเครือข่าย แรนดอล์ฟทำให้แรดผู้ไม่ทันระวังกลายเป็นเป้าหมายของความพยายามอันน่าเหลือเชื่อหลายครั้งของเขาในการแก้แค้นและทวงคืนสถานะคนรักของอเมริกา

A successful businesswoman in the music industry sees her life fall apart after a young and mysterious woman starts work as her secretary. The scheming girl is totally obsessed by the famous businesswoman and she tries to steal everything from her, including her career.

Bong (Adam Cheng) blamed Sing (Kwan Hoi San) for abandoning his mother and refused to acknowledge him as his father even he was one of the richest men in town. He loved and admired his foster father Kin (Bow Fong), who was a retired cop. He and his brother Lap (Gallen Lo) followed Kin’s footsteps and joined the force. Bong’s half-brother Kei (Poon Chi Man) was involved in a murder case and Bong in turn got suspended since his superior Kin (Julian Cheung) suspected he was Kei’s conspirator. Fortunately, he was proved innocent by Hang (Eddie Cheung)......

Gute Zeiten, schlechte Zeiten is a long-running German television soap opera, first broadcast on RTL in 1992. The programme concerns the lives of a fictional neighborhood in Germany's capital city Berlin. Over the years the soap opera tends to have an overhaul of young people in their late teens and early twenties; targeting a young viewership.

In the early 1990s, a recently widowed, impoverished Orlando water park employee schemes and cons her way up the ranks of the multi-billion dollar pyramid scheme which ruined her financially in the first place.

Professor Yang Shu forget to accompany his daughter to school during his participate in drug research and development of small rise in early examination. The daughter fainted due to heat stroke in the school room. The mother, a five-star hotel after lunch chef Ar Chen in this situation was very angry when she found her husband already secretly resigned to make drug development joint venture after more dissatisfaction and resolute A divorce . However Yang Shu research results have been successful, all of a sudden fame and fortune. But despite that, Yang Shu wants nothing more but to have back his family again.

Catch up with Harper, Robyn, Jordan, Lance, Quentin, Shelby, Candace, and Murch as their relationships evolve and past grievances resurface in the unpredictable stages of midlife crisis meets midlife renaissance.

Chet & Laura, a songwriting duo in their tenth year of trying to make it, start to realize their chances of success may have already passed them by.

Peter Jones, star of Dragons' Den, leaves his lair to meet some of Britain's top entrepreneurs, finding out how they made their millions and investigating whether there is a blueprint for success.

Sins is a 1986 CBS television miniseries starring Joan Collins. An adaptation of the 1982 novel of the same name by Judith Gould, it is the story of a woman who survives the horrors of the Nazi occupation of France and suffers a succession of challenges as she rises in the world of fashion. Produced by New World Television, Collins also served as executive producer with her then-husband Peter Holm, and the mini-series contained 85 costume changes for her role. Carly Simon co-wrote and performed the theme song, "It's Hard to be Tender."

A Year at the Top is an American sitcom which aired for five episodes on CBS in 1977. Produced by T.A.T. Communications Company, the series was created by Heywood Kling and co-executive produced by Don Kirshner and Norman Lear.

Follow five work-obsessed twenty-somethings striving for professional success and, if they have time, personal happiness in Manhattan's most glamorous neighborhood, Murray Hill.